ภาพกิจกรรม

วันที่ 9 มิถุนายน  2568 กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์จังหวัดลำพูน ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์นม เข้าฟาร์มเกษตรกรในพื้นที่ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ได้แก่

1. ฟาร์มนายนิเวศน์ ปาลี

2. ฟาร์มนางสาวสุภิสรา ปาลี

3. ฟาร์มนายบุญยศ ปาลี

4. ฟาร์มพิทักษ์ มูลหน่อ

เพื่อแก้ไขปัญหาปริมาณโซมาติกเซลล์ในน้ำนมดิบสูง ซึ่งทางกลุ่มส่งเสริมฯ ได้เข้าไปสังเกตุการตั้งแต่การเริ่มเตรียมตัวแม่โครีดนมเพื่อรอรีดนม และขั้นตอนการรีดนมของฟาร์ม  โดยดำเนินการดังนี้

-ตรวจเช็คความสะสะอาดอุปกรณ์เครื่องรีด

-ให้คำแนะนำกับเกษตกรในส่วนของวิธีการล้างทำความสะอาดอุปกรณ์รีดนม เน้นย้ำจุดที่เกิดการสะสมของคราบนมและอุปกรณ์ที่สัมผัสกับน้ำนมโดยตรง เช่น ถ้วยรองนม ฐานหัวใจ ยางไลน์เนอร์ ควรมีการทำสะอาดให้เหมาะสมและตรวจสอบอยู่เป็นประจำ

- ให้ความรู้เกี่ยวกับอัตราจังหวะการรีดนมที่ส่งผลต่อการเกิดเต้านมอักเสบ ให้คำแนะนำการปรับแรงดันสูญญากาศ

-แนะนำการล้างท่อลมด้วยโซดาไฟ เพื่อทำความสะอาดท่อลม เมื่อนมล้นถังถูกดูดเข้าไปในท่อลม หรือควรล้างทำความสะอาดเป็นประจำทุกเดือน

 - แนะนำการทำความสะอาดตัวควบคุมจังหวะเครื่องรีด ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของคราบนม และสิ่งสกปรก

-แนะนำขั้นตอนการรีดนมโคที่ถูกต้องให้แก่เกษตรกร โดยเฉพาะการ CMT น้ำนมทุกตัวทุกครั้ง ก่อนการรีดนม ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการคัดกรองน้ำนมดิบ เพื่อที่เกษตรกรจะได้รู้ว่าแม่โคตัวไหนป่วยเป็นเต้านมอักเสบ เกษตรกรจะได้แยกแม่โครีด ไปรักษาต่อไป โดยทางกลุ่มส่งเสริมฯ ได้เน้นย้ำให้เกษตรกรเล็งเห็นความสำคัญในการ CMT น้ำนม ก่อนการรีดนมเสมอเป็นอันดับแรก

ทั้งนี้ทางกลุ่มส่งเสริมฯ ได้แก้ไขปัญหาเกรดน้ำนมดิบ (MB) ในฟาร์มที่ไม่ผ่านเกณฑ์ โดยแนะนำด้านการทำความสะอาดอุปกรณ์ระบบเครื่องรีดนมและลดเวลาการรีดนมให้สั้นลง แล้วติดตามผลต่อไป

ซึ่ง การแก้ไขปัญหา SCC และการแก้ไขปัญหาเกรดน้ำนมดิบ (MB) ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ศูนย์นมฯ และเกษตรกรเป็นอย่างดี และทางกลุ่มส่งเสริมฯจะได้เข้าติดตามอย่างต่อเนื่องต่อไป

    วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นสพ.สมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลำพูน มอบหมายให้กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน ร่วมกับเจ้าหน้าสำนักงานปศุสัตว์อำเภอลี้ เข้าร่วมกิจกรรมคลินิกปศุสัตว์ในโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ฯ จังหวัดลำพูน ครั้งที่ 3 ณ โรงเรียนบ้านห้วยแหน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน โดยมีนายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ

        ในการนี้ คลินิกปศุสัตว์ได้ร่วมจัดนิทรรศการอาหารสัตว์ลดต้นทุน และการใช้ผลพลอยได้จากการเกษตรและอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ ให้คำปรึกษาแนะนำด้านการเลี้ยงสัตว์ ให้บริการแจกเวชภัณฑ์ยาสัตว์ (ยาถ่ายพยาธิ, วิตามิน, ยาปฏิชีวนะ) แจกเอกสารให้ความรู้การเลี้ยงสัตว์ (สมุดบันทึกสำหรับเกษตรกร โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ, คู่มือส่งเสริมการเลี้ยงไก่พื้นเมือง , เอกสารการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ และเอกสารหลักการสำคัญการผลิตปศุสัตว์อินทรีย์) โดยมีเกษตรกรเข้ารับบริการคลินิกปศุสัตว์ครั้งนี้จำนวน 50 ราย

วันที่ 5 มิถุนายน 2568  นายวิชาญ สุขประเสริฐ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนปศุสัตว์อำเภอเมืองลำพูน และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองลำพูน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ในโครงการ คทช ร่วมกับ เจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน ณ ตำบลศรีบัวบาน การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่เลี้ยงไก่ไข่ของโครงการฯ ด้วยการให้คำแนะนำเรื่องโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ การดูแล การเก็บผลผลิต การจัดการการเลี้ยง การป้องกันโรคในไก่ไข่ จากการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอแม่ทา ลงพื้นที่ถอดบทเรียนองค์ความรู้จากเกษตรกรต้นแบบและSmart farmer ดีเด่นระดับจังหวัด ในโครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart farmer) โดยมีเกษตรกรต้นแบบ 1 ราย (ชนิดสัตว์สุกร)คือ นายธนภณ บวรไกรกฤษ บ้านเลขที่ 279 ม.5 ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน
เป็นฟาร์มเลี้ยงสุกรที่มีแม่พันธุ์ 8 ตัว ผลิตลูกสุกร และสุกรขุนเพื่อจำหน่ายปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ 89 บาท/กิโลกรัม ส่วนลูกสุกรจำหน่ายตัวละ 2,000 บาท

เกษตรกร Smart Farmer ดีเด่นระดับจังหวัดลำพูน นายปิยะชล อินกองงาม
บ้านเลขที่ 99 ม.14 ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ปัจจุบันมีโคนม 84 แม่รีด 38 ตัว ปริมาณน้ำนม 19.89 เฉลี่ย กิโลกรัม/ตัว/วัน ส่งนมให้กับบริษัทซัคเซสมิลค์
และได้การเก็บข้อมูลอื่นๆ
- ประเด็นที่แสดงถึงความโดดเด่นและมีการปฏิบัติที่ดี
- ความรู้เฉพาะสาขา
- การจัดการปัจจัยการผลิต
- การผลิต/การเลี้ยง
- การแปรรูป/การเพิ่มมูลค่า
- การตลาด
และบันทึกภาพภายในฟาร์ม ซึ่งในการลงพื้นที่ถอดบทเรียนร่วมกับเกษตรกรและเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอแม่ทาครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี