กิจกรรมปศุสัตว์จังหวัด

วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นสพ.สมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลำพูน พร้อมด้วยกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน, สำนักงานปศุสัตว์อำเภอลี้, นายวีรยุทธ มาลา เกษตรกรผู้นำเศรษฐกิจพอเพียงขั้นสูง โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน กิจกรรมส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ ประจำปี 2568 และเกษตรกรสมาชิกวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่และไก่พันธุ์พื้นเมืองตำบลก้อ จำนวน 3 ราย ร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ปัญหา และอุปสรรคในการดำเนินงานกิจกรรมธนาคารอาหารครัวเรือน/ชุมชนในพื้นที่ตำบลก้อ แก่ศูนย์ประเมินผล สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ณ ที่ทำการกำนันตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เพื่อนำผลการติดตามโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน กิจกรรมส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ ปี 2568 เสนอต่อผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อไป

     วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. นสพ. สมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลำพูน พร้อมด้วย สพญ. เปรมวดี ยศอิ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ กลุ่มยุทธศาสตร์ฯ เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการการจัดทำแผนและกลั่นกรองโครงการภายใต้แผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (ด้านเกษตร) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2570 ณ ห้องประชุม POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดลำพูน โดยมี นายโยธินประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธาน และีมหน่วยงานภาครัฐด้านเกษตรจากจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดลำปาง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์

     ในที่ประชุมได้มีการเสนอโครงการภายใต้แผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของงบกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (ด้านเกษตร) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2570 รวมทั้งสิ้น 11 โครงการ งบประมาณรวมกว่า 53 ล้านบาท โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูนได้นำเสนอโครงการฟาร์มโคนม คาร์บอนต่ำ สร้างพลังงานลดโลกร้อน ทั้งนี้มติที่ประชุมรับทราบแผนงานทุกโครงการ และมีข้อเสนอแนะให้ปรับแก้ในบางโครงการ ซึ่งให้ปรับแก้รายละเอียดโครงการให้แล้วเสร็จและจัดส่งให้สำนักงานจังหวัดลำพูนภายในวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เพื่อประชุมการรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ต่อไป

วันที่  14 กรกฎาคม 2568 นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน มอบหมายให้ นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานพิธีเปิดโครงการปศุสัตว์ร่วมใจ กำจัดภัยโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิ๋ษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีนางศุกลรัตน์ จันทร์มณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์เขต 5 ประมงจังหวัดลำพูน ท้องถิ่นจังหวัดลำพูน รักษาราชการแทนประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน นายกเทศมนตรีตำบลเหมืองจี้ สคร.1 เชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน  หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนักเรียนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม

>>>ผลการปฏิบัติงานของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน ดังนี้

- การให้บริการทำหมันสุนัข และแมวโดยการผ่าตัด จำนวนทั้งสิ้น 71 ตัว

🐶สุนัข จำนวน 53 ตัว

     - เพศผู้  18 ตัว

     -เพศเมีย 35 ตัว

🐈แมว จำนวน 18 ตัว

     -เพศเมีย 6 ตัว

     -เพศผู้ 12 ตัว

- ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า จำนวน 73 ตัว(สุนัข 53 ตัว, แมว 20 ตัว)

- ผ่าตัดแก้ไขภาวะเนื้องอกที่อัณฑะ  1 ตัว

- บริการสนับสนุนอาหารสุนัข และแมว ที่ได้ความอนุเคราะห์จากภาคเอกชน จำนวน 73 ตัว

        การให้บริการตามโครงการฯ ดังกล่าวไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ตามนโยบายกรมปศุสัตว์ที่จัดหน่วยปศุสัตว์เคลื่อนที่ออกบริการในพื้นที่ที่ขาดแคลนสถานพยาบาลสัตว์หรือพื้นที่ที่การเดินทางมีความยากลำบาก หรือสถานศึกษา วัด สถานที่ราชการ สร้างความปลอดภัยด้านโรคพิษสุนัขบ้า ควบคุมประชากรสุนัขแมวในพื้นที่โดยการผ่าตัดทำหมันและทำให้ได้รับการบริการได้อย่างทั่วถึง และมีสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีขึ้น

โดยนายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จังหวัดลำพูน ยังมุ่งมั่นขับเคลื่อนการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าต่อเนื่อง เพื่อให้จังหวัดลำพูนเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าทั้งจังหวัดอย่างยั่งยืน

วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 นสพ.สมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลำพูน เข้าร่วมประชุมขับเคลื่อนงานกรมปศุสัตว์ เพื่อถ่ายทอดนโยบายของรัฐมนตรีส่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ไปสู่การปฏิบัติ ผ่านระบบ Zoom Conference ณ ห้องประชุมสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน โดยมีหัวหน้ากลุ่มทุกกลุ่ม และปศุสัตว์อำเภอทุกอำเภอเข้าร่วมประชุม ในครั้งนี้ โดยมีหลักการทำงาน พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้ง สานต่อนโยบายเดิม คือ 1.เน้นการสร้างวิธีการทำงานสู่การปฏิบัติ 2.เร่งรัดการจัดการที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร 3.บริหารจัดการน้ำทั้งระบบ 4.ยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง 5.ยกระดับศักยภาพของเกษตร/สถาบันเกษตรกร 6.จัดการทรัพยากรทางการเกษตร7. รับมือกับภัยพิบัติ 8.สานต่อการทำสงคราสินค้าเกษตรเถื่อน 9.อำนวยความสะดวกด้านการเกษตร เพิ่มเติมมาตรการขับเคลื่อน คือ 1.ลดต้นทุนสร้างรายได้ โดยจัดหาพันธุ์สัตว์ที่ดี ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร บริหารจัดการด้านการตลาดสินค้าเกษตร 2. เสริมแกร่งเกษตรกรให้มาสารถแข่งขันได้ โดยผลักดันขยายเวลาชำนะหนี้ สนับสนุนแหล่งเงินทุน ปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัย ลดขั้นตอนและกระบวนการที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อเกษตรกร ทั้งนี้อธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้เข้มงวดการนำเข้า เคลื่อนย้ายสัตว์ ให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง การป้องกันการเกิดโรคระบาดสัตว์ ด้านอาหารสัตว์ การบริหารการจัดการฟาร์มที่ดี คัดเลือกสายพันธุ์สัตว์ที่ดี พร้อมเน้นย้ำให้ความสำคัญการทำหมันสุนัขและแมวทั่วประเทศ