กิจกรรมปศุสัตว์จังหวัด

วันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น.นสพ.สมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลำพูน พร้อมด้วย กลุ่ม ฝ่ายปศุสัตว์อำเภอ จัดกิจกรรมจิตอาสา ณ วัดบ้านโฮ่งหลวง ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน โดยการทำความสะอาดกวาดใบไม้ เก็บขยะ โดยรอบบริเวณวัดบ้านโฮ่งหลวง

          วันที่ 21 สิงหาคม 2568 นายวิวัฒน์  อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน  มอบหมายให้นายโยธิน ประสงค์ความดี เป็นประธานในพิธิเปิดโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข จังหวัดลำพูน เคลื่อนที่ " ครั้งที่ 8 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีนายปรีขา สมชัย ปลัดจังหวัดลำพูน กล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดลำพูน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องคืกรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่าย ภาคเอกชนปละประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม

          น.สพ.สมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลำพูน มอบหมายให้ นายอภิเษก คงศิลา  นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ  นายวิชาญ สุขประเสริฐ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนปศุสัตว์อำเภอเมืองลำพูน นายประพิศ เสนาจิตร ปศุสัตว์อำเภอแม่ทา นายศุภกร พงษ์ตุ้ย ปศุสัตว์อำเภอป่าซาง  พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างในสังกัด ร่วมออกบริการประชาชนและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน พร้อมทั้งรับทราบปัญหาความเดือดร้อน ความต้องการด้านต่างๆ ของประชาชน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชน โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูนได้จัดเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน สำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ นายสัตวแพทย์ประจำอำเภอในพื้นที่ ร่วมดำเนินการออกหน่วยปศุสัตว์เคลื่ิอนที่ บริการด้านสัตวแพทย์ โดยให้ความรู้ด้านปศุสัตว์ ความรู้โรคพิษสุนัขบ้า การผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ถ่ายพยาธิ และรักษาสัตว์ให้กับสุนัขและแมว ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

>>> ผลการปฏิบัติงานของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน ดังนี้

- การให้บริการควบคุมประชากรโดยการผ่าตัดทำหมัน จำนวนทั้งสิ้น 35 ตัว

• สุนัข 19 ตัว

         => เพศผู้  4 ตัว

         => เพศเมีย 15 ตัว

• แมว 16 ตัว

        => เพศผู้ 6 ตัว

        => เพศเมีย 10 ตัว

- การให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สุนัขและแมวด้อยโอกาส จำนวน 35 ตัว

- เกษตรกร/เจ้าของสัตว์ รับบริการ 11 ราย

          การให้บริการตามโครงการฯ ดังกล่าวไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ผลการออกหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ครั้งนี้ประชาชนในพื้นที่มีความพึงพอใจมากต่อนโยบายกรมปศุสัตว์ที่ออกบริการในพื้นที่ที่ขาดแคลนสถานพยาบาลสัตว์หรือพื้นที่ที่การเดินทางมีความยากลำบากในการนำสัตว์เลี้ยงมารับบริการ และมีความต้องการรับบริการด้านการสุขาภิบาลสัตว์เลี้ยง ทำให้สัตว์เลี้ยงได้รับการบริการได้อย่างทั่วถึง และมีสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีขึ้น

วันที่ 22 สิงหาคม 2568 นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน  มอบหมายให้นายชาตรี ธินนท์ รองผุ้ว่าราชการเป็นประธานเปิดโครงการ หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินราทบรมราชชนนี(พอ.สว.)ครั้งที่ 14

 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568  โดยมีนางสาวศิริพร กันธิยะ นายอำเภอบ้านธิ หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ส่วนราชการอำเภอบ้านธิ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน กิ่งกาชาดอำเภอบ้านธิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ผู้นำชุมชน อาสาสมัคร พอ.สว.และประชาชนอำเภอบ้านธิ เข้าร่วม

น.สพ.สมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลำพูน มอบหมายให้ น.สพ.อภิเษก คงศิลา นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์  นายวิชาญ สุขประเสริฐ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนปศุสัตว์อำเภอบ้านธิ นายประพิศ เสนาจิตร ปศุสัตว์อำเภอแม่ทา นายศุภกร พงษ์ตุ้ย ปศุสัตว์อำเภอป่าซาง   ข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างในสังกัด ร่วมออก บริการประชาชนและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน พร้อมทั้งรับทราบปัญหาความเดือดร้อน ความต้องการด้านต่างๆ ของประชาชน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชน โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน ได้จัดเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน สำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ นายสัตวแพทย์ประจำพื้นที่ ร่วมดำเนินการออกหน่วยบริการด้านสัตวแพทย์ โดยบริการให้ความรู้ด้านปศุสัตว์  ให้บริการผ่าตัดทำหมันสุนัข และแมว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ถ่ายพยาธิและรักษาสัตว์ให้กับสุนัขและแมว ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

'>>>ผลการปฏิบัติงานของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน ดังนี้'

- การให้บริการควบคุมประชากรโดยการผ่าตัดทำหมัน จำนวนทั้งสิ้น 28 ตัว

 สุนัข 7 ตัว

         =>เพศเมีย 6 ตัว

         => เพศผู้ 1 ตัว

แมว 21 ตัว

        =>เพศผู้ 4 ตัว

        =>เพศเมีย 17 ตัว การให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สุนัขและแมวด้อยโอกาส จำนวน 28 ตัว

        การให้บริการตามโครงการฯ ดังกล่าวไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ผลการออกหน่วยปศุสัตว์เคลื่อนที่ครั้งนี้ประชาชนในพื้นที่มีความพึงพอใจมากต่อนโยบายกรมปศุสัตว์ที่จัดหน่วยปศุสัตว์เคลื่อนที่ออกบริการในพื้นที่ที่ขาดแคลนสถานพยาบาลสัตว์หรือพื้นที่ที่การเดินทางมีความยากลำบากในการนำสัตว์เลี้ยงมารับบริการ และมีความต้องการรับบริการด้านการสุขภิบาลสัตว์เลี้ยง ทำให้สัตว์เลี้ยงได้รับการบริการได้อย่างทั่วถึง และมีสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีขึ้น

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 น.สพ.สมบัติ ศุภประภากร ปศุสัตว์จังหวัดลำพูน พร้อมด้วยกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์, ส่วนส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์เขต ๕   เจ้าหน้าปศุสัตว์อำเภอบ้านธิ   นำทีมเจ้าหน้าที่กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่  เพื่อดำเนินการคัดเลือกเกษตรกรโคนมรุ่นใหม่ (Young Dairy Farmer) ภายใต้แผนงานพื้นฐานด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน กิจกรรมหลัก “ส่งเสริมพัฒนาและสนับสนุนงานปศุสัตว์” กิจกรรมรอง “สืบสานอาชีพพระราชทานโคนม” และกิจกรรมย่อย “สืบสานอาชีพพระราชทานโคนม (Young Dairy Farmer)”

การคัดเลือกในครั้งนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาเกษตรกรโคนมรุ่นใหม่ให้มีศักยภาพในการประกอบอาชีพอย่างมั่นคง สามารถนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และการบริหารจัดการสมัยใหม่ มาประยุกต์ใช้ในการเลี้ยงโคนม เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตน้ำนมดิบ สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ครอบครัวและชุมชน ตลอดจนเป็นกำลังสำคัญในการสืบสานอาชีพพระราชทานโคนม

โดยในพื้นที่ได้ลงเยี่ยมฟาร์มของ นายวรการ ปาลี (ทองศักดิ์ฟาร์ม) ซึ่งเป็นหนึ่งในเกษตรกรที่สมัครเข้าร่วมการคัดเลือกเกษตรกรโคนมรุ่นใหม่ประจำปี 2568 ซึ่งจะต้องมีการเตรียมข้อมูลเพื่อการนำเสนอตามเกณฑ์การคัดเลือกพิจารณาดังนี้

1. ด้านความคิดสร้างสรรค์ในการทำกิจการฟาร์มโคนม

2. ด้านประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในฟาร์ม

3.ด้านความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติในช่วง 5 ปี (action plan)

4. ด้านการวิเคราะห์ทางสถิติเพื่อวัดประสิทธิภาพการผลิต

5. ด้านความคุ้มค่าทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม

6. รูปแบบการนำเสนอ/ วิธีการนำเสนอ/ ความร่วมมือในทีมและที่ปรึกษา

โดยในการนำเสนอข้อมูลและการตอบคำถามของผู้เข้าร่วมโครงการได้มีการนำเสนอได้น่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างมาก

การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจแก่เกษตรกรรุ่นใหม่ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอาชีพโคนมของประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง ยั่งยืน และแข่งขันได้ในระดับสากล